ขายของออนไลน์ ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?
CHECKLIST องค์ประกอบที่นำไปสู่ความสำเร็จ
ทางแก้ปัญหาแต่ละข้อ เพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจ
เวลาที่ไปสอนตามที่ต่างๆจะมีเจ้าของธุรกิจมาถามมากมาย…
ว่าต้องทำยังไงถึงจะ ขายของออนไลน์ ได้?
เริ่มต้นทำ การตลาดออนไลน์ ที่ไหนดี?
เลือก ช่องทางการตลาดออนไลน์ ยังไง?
ขอเทคนิคเทพๆยิงโฆษณา Facebook ได้มั้ย?
ต้องสร้างเว็บไซต์มั้ย ขายของบน Facebook ไม่ดีเลย?
เก็บ Remarketing ยังไงให้ซับซ้อน เก็บได้ทุกจุด? ฯลฯ
จากประสบการณ์ที่ทำธุรกิจด้วยการสร้างแบรนด์และทำการตลาดออนไลน์มาเกือบ 9 ปีด้วยตัวเอง
ขอสรุปให้ฟังง่ายๆเลยค่ะว่าอยากทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในยุคนี้ อย่างน้อยเราต้องมี CHECKLIST 4 องค์ประกอบนี้เป็นสำคัญ เป็น “4 เสาหลัก” ที่ถ้าเราพลาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งอาจทำให้ธุรกิจไปไม่ถึงไหนได้เลย
วันนี้เลยอยากเขียนเรื่องนี้ให้ทุกๆท่านได้อ่านแล้วจะได้ลองเช็คดูว่า บางทีการที่ธุรกิจเรายังขายได้ไม่ดี เป็นเพราะเราขาดข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายๆข้อเหล่านี้ไปหรือเปล่านะคะ
1. สินค้าต้องดีและแตกต่าง
ข้อแรก ก่อนที่เราจะไปวางแผนการตลาด, เรียนเทคนิค FB ขั้นสูง หรือวางงบการตลาดจำนวนมาก
บางทีเราต้องเริ่มต้นจาก “เรื่องพื้นฐานที่สุด” ในการทำธุรกิจก่อนนะคะ คือ “สินค้าเราต้องดีค่ะ”
ก่อนเราจะทำ Online Marketing = เราต้องทำ Marketing พื้นฐานให้ได้ก่อนนะคะ
ถ้าสินค้าเราไม่ดี เราลงงบการตลาด ทำการตลาดด้วยช่องทางต่างๆมากมาย อาจจะทำให้คนลองซื้อใช้ครั้งแรกได้ค่ะ
แต่เมื่อสินค้าไม่ดี จะไม่มีการซื้อครั้งที่สองอีก และจะไม่เกิดการปากต่อปาก เพราะฉะนั้นก่อนจะทำการตลาดอะไรซับซ้อน ลองสังเกตดูก่อนค่ะ ว่าสินค้าเราดีพอหรือยัง? เช่น ถ้าขายอาหาร อาหารของเราอร่อยมั้ย? หรือถ้าทำเครื่องสำอาง สินค้าเราใช้ดีมั้ย ตอบโจทย์ลูกค้าได้จริงๆหรือเปล่า?
ทางแก้ของปัญหานี้
พัฒนาสินค้าให้ดีก่อนทำการตลาด
เลือกสินค้าที่ขายได้และเป็นทีต้องการ
ถามตัวเองว่าถ้าเป็นเรา เราจะซื้อสินค้าของเรามั้ย? ถ้าพัฒนาสินค้าและบริการได้ดี เจ้าของหรือฝ่ายการตลาดจะรู้จุดเด่นของสินค้าว่าดียังไง แตกต่างยังไง หลังจากนั้นจะนำจุดเด่นมาสร้างแบรนด์และทำการตลาดได้ไม่ยากค่ะ
2. แบรนด์ชัด มีความแตกต่างโดดเด่นจากคู่แข่ง
ถ้าสินค้าเราดีพอแล้ว เรามีการนำเสนอแบรนด์และสินค้าที่ดีพอหรือยัง?
จากการสอนและปรึกษาธุรกิจ ขวัญจะเจอธุรกิจที่มีปัญหาเรื่องแบรนด์กรณีบ่อยมากค่ะ โดยจะขอแบ่งเป็น 2 กรณีนะคะ คือ
กรณีที่ 1
คือ “ธุรกิจที่ไม่มีการสร้างแบรนด์ ไม่มีจุดขาย หาจุดที่แตกต่างโดดเด่นจากคู่แข่งไม่ได้เลย”
ขายสินค้าเหมือนๆกับคนอื่น นำเสนอเรื่องเหมือนกันกับคนอื่น ขาดการนำเสนอ Brand Story / Brand Concept ที่ดีพอให้ลูกค้าจดจำได้ ส่วนใหญ่จะเน้นขายสรรพคุณของสินค้าว่าทำอะไรได้บ้าง โดยเป็นการสื่อสารจุดที่เหมือนๆกันกับคู่แข่งไปหมด จนแบรนด์ไม่มีความแตกต่างพอให้ลูกค้าจดจำ
กรณีที่ 2
คือ “ธุรกิจที่สินค้าดีและมีจุดขายที่โดดเด่น แต่ปัญหาคือ “ไม่สื่อสารการตลาดออกมา” ให้คนจำได้
ขวัญเจอเจ้าของธุรกิจแบบนี้หลายคนมากๆค่ะ คือสินค้าดี เรื่องราว ความเป็นมาดี มีจุดเด่นสินค้าและแบรนด์ที่แตกต่าง
แต่มีปัญหาคือ คนรู้จุดเด่นและเรื่องเล่าของแบรนด์มีคนเดียว คือ “เจ้าของ”
ใครอยากรู้ว่าแบรนด์นี้ขายอะไร/ ความเป็นมายังไง/ มีข้อแตกต่างอะไรบ้าง/ ทำไมต้องใช้สินค้าและบริการที่นี้ อยากรู้ให้ถามเจ้าของค่ะ เพราะรู้อยู่คนเดียว 555 แถมเวลาเจ้าของเล่าคือ ดีมากก น่าสนใจ น่าซื้อทันที
แต่พอมาดูช่องทางการสื่อสารการตลาดต่างๆ เช่น ดูบนเว็บไซต์, ในหน้า FB Fanpage, ดูโบรชัวร์ ฯลฯ จะไม่เห็นมีจุดเด่นแบบที่เจ้าของเล่ามาเลย พูดง่ายๆคือทางแบรนด์ไม่สามารถสื่อสารแบรนด์ของตัวเองออกมาได้ หรือทำก็ทำได้ไม่ดีเลยค่ะ ต้องรอเจ้าของพรีเซนต์เท่านั้น
ทางแก้ของปัญหานี้
1.กรณีแรก คือ ถ้าแบรนด์ไม่มีจุดขาย
ทางแก้คือ ต้องพยายาม “เล่าเรื่องแบรนด์” ของตัวเองออกมาให้ได้
เจ้าของธุรกิจหรือฝ่ายการตลาด “ต้องหา” ว่าธุรกิจและสินค้าเรามีอะไรที่โดดเด่น เป็นจุดแข็งที่แตกต่างจากคู่แข่ง นำตุดเด่นของเรามาร้อยเรียงเป็นองค์ประกอบของแบรนด์ที่โดดเด่นให้ได้
แต่ก่อนจะคิด Brand Story ของตัวเองออกมาได้ ขวัญแนะนำว่าก็ต้องมาจากการศึกษาคู่แข่งในตลาดก่อนนะคะ ว่าตลาดที่เรากำลังลงแข่งขันอยู่ เค้าเล่าเรื่องแบรนด์กันแบบไหนกันและนำเรื่องไหนมาเป็นจุดเด่น ถ้าเราศึกษาดีแล้ว เราจะพอรู้ค่ะ…..ว่าเราจะนำเสนอแบรนด์และสินค้าของเรายังไงให้ไม่เหมือนกับคนอื่น
แล้วค่อยๆเขียนสรุปจุดเด่นแบรนด์ของตัวเองออกมาที่จะเป็นองค์ประกอบแบรนด์ที่อยากจะสื่อสารให้คนจำแบรนด์และสินค้าของเราให้ได้
2. ถ้าเป็นปัญหากรณีที่ 2 คือมีจุดเด่นอยู่แล้ว แต่ไม่สื่อสาร
ทางแก้คือ ต้องมาวาง “ยุทธศาสตร์การสื่อสารแบรนด์” ค่ะ ว่าจะ “นำเสนอ” จุดเด่นของเราออกมาอย่างไรให้ลูกค้าจดจำจุดเด่นของเราได้
ต้องวางกลยุทธ์การสื่อสารแยกในช่องทางต่างๆค่ะ
ช่องทางการตลาด Offline จะสื่อสารแบรนด์ออกมายังไง
ช่องทางการตลาด Online แต่ละช่องทางจะสื่อสารจุดเด่นนี้ยังไง
ยิ่งถ้าเป็นแบรนด์เปิดตัวใหม่ ยิ่งต้องวางกลยุทธ์การสื่อสารตรงนี้ให้ดีเลยนะคะ เพราะเราเพิ่งเปิดตัวแบรนด์ คนยังจำไม่ได้ว่าชื่อแบรนด์นี้ขายอะไร มีจุดเด่นตรงไหน ถ้าทำได้ดีก็ดีไป แต่ถ้าไม่ดีก็ปวดหัวเลยค่ะ เพราะทำการตลาด ลงทุนในช่องทางต่างๆไปแล้ว
ในเรื่องการสร้างแบรนด์ที่ดี จะมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ไว้ขวัญจะมาเล่าขั้นตอนการสร้างแบรนด์อย่างละเอียดให้ฟังในคราวถัดไปนะคะ 😀😀
3. ทำ Content ให้ดี
เมื่อสินค้าเราดีแล้ว แบรนด์เราโดดเด่นแล้ว เราก็ต้องสื่อสารแบรนด์และจุดเด่นของเราออกมาในช่องทางการตลาดต่างๆให้ได้ด้วยค่ะ ที่สำคัญคือ “ต้องทำและต้องทำให้ดีด้วย”
อย่างน้อยรูปต้องสวย (สวยในความหมายว่าลูกค้าชอบและก่อให้เกิดการซื้อนะคะ ไม่ใช่สวยในเชิงศิลปะ มองว่าสวย ซึ่งไม่เกิดผลในเชิงธุรกิจ)
การเขียนและนำเสนอ Content ต้องทำออกมาให้ดี สื่อสารจุดเด่นของสินค้าของเราให้ได้
ยิ่งถ้าเราเน้นขายทางออนไลน์ คนจะซื้อสินค้าผ่าน Content ที่ดีนี่แหละค่ะ เราต้องเรียนรู้การทำ Sale Content คือการทำโพสต์ขายสินค้าและบริการของเราตรงๆให้ดี ถ้าทำ Content ได้ดีจะปิดการขายได้ไม่ยาก
ปัญหาการทำ Content นี้เป็นปัญหาหลักที่เจ้าของธุรกิจเป็นกันเยอะค่ะ บางคนก็เรียนยิงโฆษณา ลองยิงโฆษณา FB สลับซับซ้อนมาก แต่ลืมไปว่าบางทีปัญหาอาจจะมาจากตัว Content หรือโพสต์ที่เรายิงโฆษณานี่แหละ ที่ยังไม่ดีพอ
Content ที่ไม่ดี ยิงโฆษณาให้ดียังไง โดนกลุ่มเป้าหมายหลักยังไง ก็ขายไม่ได้
ทางแก้ของปัญหานี้
เรียนรู้ ฝึก หรือจะจ้างคนก็ได้ ยังไงต้องทำ Content ให้ดีให้ได้
เราต้องรู้ธรรมชาติของธุรกิจตัวเองด้วยนะคะว่าเน้น Content ประเภทไหนเป็นหลัก เช่น ถ้าเราขายเสื้อผ้าแฟชั่น Content สำคัญคือรูปภาพ เราต้องถ่ายรูปให้สวยให้ได้ ในสไตล์ที่กลุ่มเป้าหมายเราชอบ หรือถ้าเราขายสินค้าที่เป็นเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เราต้องเขียนให้เยอะ อธิบายให้ดีว่าสินค้าเราคืออะไร จะช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ลูกค้า ฯลฯ
ทักษะหลักๆที่คุณจำเป็นต้องมีในการ ขายของออนไลน์ คือ การทำรูปให้สวย + ทักษะการเขียนนำเสนอแบรนด์และสินค้า
เรื่องไหนเราไม่ถนัด ต้องจ้างคนมาดูแลตรงนั้น แต่เราในฐานะเจ้าของธุรกิจต้องทราบก่อนว่า “เรื่องนี้สำคัญ” นะคะ
4. ยิงโฆษณาให้แม่น
ปัญหานี้ก็เป็นกันเยอะค่ะ คือ สร้างแบรนด์มาดี มีเรื่องเล่าแบรนด์ที่น่าสนใจ พัฒนาสินค้าดีมาก ทำ Content สวย แต่ตกม้าตายที่…. “ไม่ยอมโฆษณา / โฆษณาไม่เป็น” นี่แหละ
เพราะการพัฒนาสินค้าให้ดี สร้างแบรนด์ วางแผนการตลาดและทำ Content ให้ดีได้ ขวัญรู้ว่าเราต้องใช้เวลา ความพยายาม และต้องอดทนเรียนรู้หลายๆอย่าง บางอย่างก็ต้องจ้างเค้าทำ เสียเงินสร้างธุรกิจขึ้นมาแล้ว แต่สุดท้าย เรากลับขายของไม่ได้หรือได้ไม่ดีอย่างที่หวังเพียงเพราะ…
เราไม่สามารถนำเสนอสินค้าของเราไปหาคนที่เค้าอยากได้มันจริงๆ
ทางแก้ของปัญหานี้
ต้องเรียนรู้ทักษะ “การยิงโฆษณาให้แม่น” ให้ได้
ถ้าธุรกิจเราเน้นขายใน FB ต้องเรียนรู้การยิงโฆษณา FB Ads
ถ้าธุรกิจเน้นขายผ่านเว็บไซต์ ต้องเรียนรู้การยิงโฆษณา Google Ads หรือทำ SEO
ต้องทำยังไงก็ได้ ให้เราสามารถนำเสนอแบรนด์ของเรากับกลุ่มเป้าหมายที่ถูกกลุ่มจริงๆ ถ้ายิงเองไม่แม่น ต้องเรียนรู้เพิ่ม หรือจ้างคนมายิงให้ค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกและงบของแต่ละธุรกิจไปนะคะ
เรื่องของยิง Ads นี้ ขวัญจะค่อยๆเขียนสอนเทคนิคการยิงโฆษณาไปเรื่อยๆนะคะ เพราะแค่ FB Ads อย่างเดียว ก็มีเรื่องให้พูดถึงหลายหัวข้อมากๆแล้ว
สรุปสุดท้าย
ขวัญอยากให้ทุกท่านลองสำรวจธุรกิจของตัวเราเองดูนะคะ ถ้าเรายังไม่พอใจกับยอดขายหรือสถานการณ์ของเราในปัจจุบัน ต้องลองเช็คดูนะคะว่าธุรกิจของเราขาดหัวใจหลักเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปหรือเปล่า?
CHECKLIST 4 หัวใจสำคัญของการ ขายของออนไลน์ หรือสร้างธุรกิจในโลกออนไลน์
สินค้าของเราดีพอหรือยัง?
เรามีจุดขายที่ดี มีเรื่องเล่าของแบรนด์ที่โดดเด่นพอที่ลูกค้าจะจดจำได้หรือยัง?
เราทำ Content ดีพอมั้ย?
เรายิงโฆษณาแม่นหรือเปล่า สามารถยิงไปหากลุ่มเป้าหมายจริงๆได้หรือเปล่า?
ลองเช็คแล้วปรับให้ดีขึ้นในแต่ละข้อๆไปนะคะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของธุรกิจทุกท่านค่ะ 😀😀😀
Comments