top of page
ค้นหา
rnshopp

ส่อง!! 5 เทคนิคการขาย ให้ได้กำไร

1. เขียนบรรยายสรรพคุณสินค้าด้วยภาษาที่ดึงดูดใจ

การบรรยายคือ เทคนิคการขาย ที่สำคัญ ไม่ว่าจะการบรรยายด้วยคำพูด หรือการเขียน นั้นล้วนต้องสร้างความน่าสนใจ ที่ทำให้ผู้ฟัง ต้องการที่จะฟัง หรือผู้อ่านต้องการที่จะอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าของคุณต่อ โดยภาษาที่ดึงดูดใจนั้นก็คือภาษาที่ ถูกเขียนขึ้นอย่างถูกหลัก อ่านไปแล้วไม่รู้สึกติดขัด เนื้อหาครบถ้วน ครอบคลุมตั้งแต่รายละเอียดของสินค้า วิธีการสั่งซื้อ และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อสินค้าทั้งหมด เมื่อรายละเอียดครบถ้วน ต่อมาคือเรื่องของภาษาที่คุณใช้ในการเขียนนั้น มีลักษณะแบบไหน ใช้ภาษาวัยรุ่นมากเกินไปไหม เขียนคำผิดบ่อยเกินไปหรือเปล่า โดยการใช้ภาษาเขียนที่สะกดผิดบ่อยๆ (ภาษาวัยรุ่น) จะทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย บางครั้งก็ส่งผลไปถึงภาพลักษณ์ของสินค้าทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ และไม่น่าติดตาม หรือสนใจในตัวสินค้าของคุณได้ง่าย ดังนั้นภาษาที่คุณควรใช้ อาจจะเลือกแบบที่เป็นทางการ เรื่องราวที่คุณบรรยายก็ควรเรียบเรียงเป็นขั้น เป็นตอน เพื่อทำให้ผู้อ่านรู้สึกได้ว่าอ่านง่าย เข้าใจในเนื้อหาได้ง่าย รายละเอียดครบถ้วน น่าเชื่อถือ


2. เลือกขายสินค้าที่มีความแตกต่าง หรือกำลังเป็นที่สนใจของตลาด

การ ทำธุรกิจ การค้าใครที่สามารถเปิดตลาดได้ก่อน หรือสามารถนำสินค้าเข้าใหม่ๆ มาขายได้เป็นเจ้าแรกนั้น ถือว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จก่อนผู้อื่นที่อยู่ในตลาด แต่ทั้งนี้การเลือกสินค้าใหม่ที่แตกต่างจากตลาดมาขายนั้นจะต้องมั่นใจว่าสินค้าชิ้นนี้กำลังเป็นที่ต้องการในตลาด มีผู้คนรอซื้อสินค้าอยู่ เป็นจำนวนมาก โดยที่ยังไม่มีใครสามารถนำมาขายได้ ถ้าหากสินค้าที่จะนำมาขายมีปัจจัยที่จะส่งผลดีในอนาคต การเลือกเทคนิคการขาย สินค้าใหม่ ที่แตกต่างจากตลาดมาขายจะสามารถสร้างกำไรที่งดงาม และส่งผลดีให้กับเจ้าของกิจการอย่างมาก


3. ทำทุกอย่างให้ง่ายเข้าไว้ โดยเฉพาะวิธีการซื้อ

ไม่ว่าจะทำอะไรมนุษย์เรานั้นมักแสวงหาถึงความรวดเร็ว สะดวกสบายเป็นสิ่งแรกๆ เสมอ ด้วยเหตุผลนี้ หากคุณกำลังขายสินค้าบน อินเทอร์เน็ต เทคนิคการขาย ที่คุณต้องนำมาใช้ คือการทำให้ทุกอย่างเข้าใจง่าย รวดเร็ว โดยเฉพาะขั้นตอนในการสั่งซื้อสินค้า บนอินเทอร์เน็ต หรือตามหน้าเพจ คุณควรปรับให้เหมาะสม กะทัดรัด รวดเร็วแต่แม่นยำในการสั่งซื้อ เช่นการลดขั้นตอนในการซื้อสินค้า เพราะบางเว็บไซต์ เมื่อจะทำการสั่งซื้อ ก็จำเป็นจะต้องสมัครสมาชิกก่อนทำการซื้อสินค้าภายในเว็บ ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกยุ่งยาก ต้องใช้เวลานาน จนทำให้ลูกค้าหมดความต้องการซื้อสินค้าได้ในบางครั้ง ดังนั้นคุณควรทำให้การสั่งซื้อของคุณ รวดเร็ว เข้าใจง่ายให้มากที่สุด  



4. เรียนรู้วิธีการหาลูกค้าใหม่ให้ธุรกิจ

การหาลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจนั้น จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการขายให้กับคุณมากขึ้น โดยการเริ่มต้นการเรียนรู้การใช้ เทคนิคการขาย ด้วยการทำ SEO ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้นบนเว็บไซต์กูเกิล จากกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการในสินค้าของคุณโดยตรง หรือการซื้อโฆษณาบนกูเกิล (Google Adwords) เพื่อเพื่อให้เว็บไซต์ หรือข้อมูลของสินค้า ขึ้นไปปรากฏอยู่ด้านบนสุดของการค้นหาผ่านกูเกิลเช่นเดียวกับการทำ SEO แต่วิธีนี้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับการโฆษณาด้วย เช่นเดียวกับการซื้อโฆษณาบนเฟสบุ๊ค การซื้อพื้นที่โฆษณาบนเว็บต่างๆ ก็จำเป็นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน โดยวิธีที่จะใช้ในการหาลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจนั้น จำเป็นจะต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายนั้นมักจะรวมตัวกันที่ใด การใช้โฆษณาของคุณถึงประสบความสำเร็จอย่างถึงที่สุด


5. ดูแลบริหารจัดการเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า

การรักษาลูกค้าเก่านั้นคุณสามารถทำได้หลายวิธีการ อาจเริ่มต้นจากธุรกิจของคุณก่อนก็ได้ เช่นการรักษาคุณภาพของสินค้า และบริการให้คงมาตรฐานเดิม หรือพัฒนาขึ้นจากเดิมก็ได้ เพื่อให้ลูกค้าของคุณได้จดจำ ประทับใจ และพร้อมที่จะกลับมาซื้อสินค้าของคุณอีกครั้ง หรือจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้า โดยการพูดคุย สอบถาม จดจำชื่อ และลักษณะนิสัยการซื้อสินค้า หรือการโทรสอบถามผลของการใช้งานสำหรับลูกค้าที่ซื้อไปใช้ก่อนน่านั้น เพื่อบ่งบอกถึงความใส่ใจที่มีให้กับลูกค้า และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกิจการ หากทำตามเทคนิคที่ได้บอกไป ทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่เคยที่ซื้อไปแล้วอีกไม่นาน จะต้องกลับมาซื้อสินค้าของคุณอีกครั้งแน่นอน



เทคนิคการขายทั้ง 5 เทคนิคที่ได้กล่าวไปนั้น จะสามารถช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายได้ หากคุณได้ลองนำไปใช้กับธุรกิจของคุณ โดยบางวิธีนั้น อาจไม่เหมาะกับธุรกิจของคุณ คุณก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับธุรกิจของคุณได้ ขอเพียงแค่คุณมีความคิดที่ดี สร้างสรรค์ มองทุกอย่างเป็นโอกาส ตัวคุณเองนั้นก็สามารถสร้างเทคนิคการขายที่ดี ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ขึ้นมาเองได้อย่างแน่นอน

ดู 4 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page